เคล็ดลับเตรียมผิวหน้าให้สวยใส ก่อนจะเป็นเจ้าสาว
วันแต่งงาน คือวันพิเศษและสำคัญ ที่ว่าที่เจ้าสาวต้องสวยที่สุด โดยเฉพาะผิวที่ต้องดูกระจ่างใส ก่อนวันงานจริงก็ต้องดูแลกันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เพราะว่าความสวยไม่ได้มากันแค่วันสองวัน แต่ต้องให้เวลาในการดูแลผิวของตัวเอง นอกจากจะวางแพลนพิธีงานแต่งงาน และการมองหาชุดแต่งงานสวยๆแล้ว แพลนเรื่องการดูแลสภาพผิว ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน ผิวสวยกระจ่างใส จะช่วยเสริมบุคลิกภาพได้ ฉะนั้น VARIS จะมาแนะนำเคล็ดลับและขั้นตอนในการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้าวันแต่งงานให้ว่าที่เจ้าสาวได้นำไปใช้กันค่ะ
อันดับแรก ว่าที่เจ้าสาวควรจะเริ่มต้นดูแลผิวพรรณตัวเองอย่างจริงจังสัก 1 สัปดาห์ ก่อนวันงาน โดยเริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ขั้นตอนการเช็คเครื่องสำอาง การล้างหน้า บำรุงทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น และอย่าลืมที่จะเลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ควบคู่ไปกับการพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วยนะคะ
อันดับสอง การมาส์กหน้า การมาส์กหน้าจะช่วยทำให้ผิวของว่าที่เจ้าสาวมีความชุ่มชื้นผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง การมาส์กหน้าควรทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะทำด้วยตัวเองหรือเข้าคอร์สบำรุงผิวหน้าก็ได้เช่นกัน และควรทำต่อเนื่องประจำอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะถึงวันงานนะคะ เพื่อให้การบำรุงได้ประสิทธิผลสูงสุด
และขั้นตอนสุดท้าย 1 วันก่อนวันงาน หากเป็นไปได้ควรปล่อยให้ผิวได้พักผ่อน ไม่ควรแต่งหน้า หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องแต่งหน้าก็ควรเช็ดทำความสะอาดและล้างออกให้สะอาดที่สุด จากนั้นก่อนนอนควรทาครีมบำรุงเพื่อให้ผิวชุ่มชื่น และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะหากว่าที่เจ้าสาวพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว เวลาแต่งหน้าจะทำให้ผิวหน้ามันได้ง่ายและดวงตาก็จะดูไม่สดใส
สำหรับการเลือกช่างแต่งหน้าที่จะมาช่วยดูแลในวันสำคัญที่สุดอีกวันหนึ่งในชีวิตของเรา ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลผิว อันดับแรกๆที่ว่าที่เจ้าสาวต้องคำนึงก็คือสไตล์การแต่งหน้าของช่างแต่งหน้า เราต้องเลือกตามสไตล์ที่ตัวเองชอบเป็นที่ตั้งนะคะ เพราะบุคลิกของว่าที่เจ้าสาวแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบแต่งหน้าแบบจัดเต็ม หรือบางคนอาจจะชอบแบบงานผิวใสๆ ดังนั้นการเลือกช่างที่มีฝีมือและเข้าใจความต้องการของว่าที่เจ้าสาวจะสามารถช่วยเสริมให้เราดูสวยขึ้นและมีความมั่นใจมากขึ้น
และที่สำคํญมากๆอีกข้อนะคะคือการจองคิวช่างแต่งหน้า ถ้าหากได้ฤกษ์วันงานมาเรียบร้อยแล้วแนะนำว่าควรรีบจองคิวช่างที่เราถูกใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆเลยยิ่งดีค่ะ เพราะหากวันงานของเราเป็นวันฤกษ์ดีคิวช่างแต่งหน้าก็อาจจะเต็มไปก่อนแล้วก็ได้
